▲ ..เมนูอาหารเกาหลี.. ▲
จะแนะนำอาหารเกาหลีให้รุจักกันนะ
김치 (คนเกาหลีอ่านว่า คิมชี นะ ไม่ใช่กิมจิ) - พูดถึงอาหารเกาหลี ไม่พูดถึงกิมจิ คงโดนคนเกาหลีกระทืบตายเป็นแน่แท้ มันก็คือผักดองปรุงรส ซึ่งสามารถนำผักเกือบทุกชนิดมาทำเป็นกิมจิได้ ในรูปนี่เป็นกิมจิผักกาดดองนะ
불고기 (พุลโกกี) - เนื้อย่างเกาหลีอันเลื่องชื่อนั่นเอง คนที่ไปกินมาแล้ว การันตีทุกคนว่าเหนือชั้นกว่าหมูกระทะที่เมืองไทย (สุดๆว้อย) เพราะจะเป็นเนื้อที่หมักอย่างดี และหอมหวานชวนน้ำลายสอ ถ้าไปกินหลายๆคน ต้องเกิดเหตุการณ์เอาตะเกียบตบกันแย่งเนื้อ - -* (อ้างอิงจากหลายท่าน)
갈비 (คาลบี) - เนื้อซี่โครงย่าง ... (รูปมันช่าง... ทรมาน อ๊ากกกก - ผู้เขียน) ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ ซักคำให้ลึกซึ้ง... แค่จินตนาการภาพเนื้อซี่โครงหมักปรุงรสเข้มข้นแล้วนำไปย่างบนเตาร้อนๆ กินกะข้าวสวยนุ่มๆซักนิด... (ช่วยด้วยยยย)
삼계탕 (ซัมกเยทัง) - หรือคือไก่ตุ๋นโสมน่านเอง เค้าจะใส่ไก่ลงไปทั้งตัวลงในน้ำซุปตุ๋นโสม (เต็มๆตัวเลยนะ แผล็บๆ) แล้วก็ยัดเป็นไส้ข้าวหรืออื่นๆ
자장면 (ชาจังมยอน) - บะหมี่ดำ ที่อาจจะเห็นในหนังบ่อยๆ เวลากินแล้วจะเลอะปากไปหมด ดูแล้วหมดกัน ผู้หญิงมีหนวด!? ต้องเตรียมกระดาษทิชชู่ไว้อย่าให้ขาดมือเชียว เดี๋ยวหนุ่มๆจะเบือนหน้าหนี อิอิ แต่รับรองว่าอร่อย (เพื่อนย้ำมา - -)แล้วก็ยังไว้กินย้อมใจช่วงขาดคู่ด้วย 55
비빔밥 (พีบิมบับ) - หรือที่เค้าเรียกกันว่าข้าวยำ เอาเครื่องปรุงมาหั่นซอยให้เล็กๆ วางบนข้าวสวยแปะไข่ไว้ข้างบน พอจะกินก็คลุกมันซะ ไข่มันก็จะแตกโพละ แล้วก็เยิ้มออกมา แทรกซึมลงไปสู่ข้าว (แต่เดี๋ยวนี้เค้ากลัวไข้หวัดนกมั้ง กลายเป็นไข่สุก ไม่เยิ้มซะแล้ว ฮือ T_T)
김치 찌개 (กิมชี จิแก) - หรือแกงกิมจิ (เดี๊ยน กิมจิ ทำได้ทุกอย่างเค่อะ)รสชาติมันก้อคล้ายๆแกงส้มบ้านเราอ่ะนะ แต่เปรี้ยวกว่าหน่อย ส่วนใหญ่เค้าจะเสิร์ฟในชามร้อน แบบยังเดือดปุดๆ ซดแล้วซี้ดดด... อ้าส์
파전 (พาจอน) - จะเรียกว่าไงดี พิซซ่าเกาหลี ? แต่มันคล้ายๆหอยทอดไทยนะ - -" มันจะเป็นเหมือนไข่เจียวทะเล ใส่ต้นหอมหั่นยาว ใส่พริก(ไม่เผ็ด)ลองนึกเนื้อหอย กุ้ง ปลาหมึกแน่นๆ กับไข่เจียวกรอบๆ จิ้มกับแจ่ว 55 อร่อยๆ (อร่อยหมดแหละ สำหรับชั้น โฮะๆ - ผู้เขียน)
김밥 (คิมบับ) - ข้าวห่อสาหร่าย ตอนแรกจะเป็นแท่งยาวๆ แล้วเค้าก็จะหั่นเป็นชิ้นๆพอดีคำ จิ้มกะโชยุญี่ปุ่นหรือวาซาบิก็ได้ ตามร้านอาหารก็จะมีทำเป็นพิเศษหน่อย คือมีผัดซอสมาให้จิ้มราดด้วย แล้วแต่ร้านทำ
냉면 (แนง-มยอน) - บะหมี่เย็น ก็คือบะหมี่ที่อยู่ในน้ำซุปเย็น (พูดให้มันได้อะไรเนี่ย - -.) บางที่มีใส่น้ำแข็ง
ด้วยอ่ะ เห็นเค้าบอกคนเกาหลีชอบกินตอนหน้าหนาว ประมาณว่ายึดหลักแบบหยินหยางมั้ง อากาศเย็น กินเย็น
빙수 (พิงซู) - ถ้าจะพูดถึงของกินตอนอากาศร้อนๆแบบนี้ ต้องพูดถึงเจ้านี่เลย >.<~ มาแล้วๆๆๆ น้ำแข็งใสทรงเครื่อง กินแล้วมันชื่นนนใจ เค้าจะใส่ผลไม้นานาชนิดลงไป บางทีก็มีไอติม หรือไม่ก็วิปครีมแปะหน้าด้วย ลองจินตนาการในวันที่แดดเปรี้ยง เหงื่อท่วมตัว แล้วคุณได้กินพิงซูเย็นเจี๊ยบ เข้าไปในปาก ลงคอของคุณไป ตามด้วยผลไม้เย็นๆ สดชื่น (กร๊ากกก สวรรค์)
붕어빵 (พุง ออ ปัง) - ขนมปังรูปปลายัดไส้ ในรูปมีวิธีทำให้ดูด้วยนะ อิอิ ทำได้หลายไส้เหมือนกัน ที่นิยมก็คือ ไส้ถั่วแดง ไส้ครีม กินร้อนๆ งั่มๆๆๆๆ
라면 (รา มยอน) - อาหารสิ้นคิดของคนทุกชาติ 55 หรือมันก็คือ มาม่า นั่นเอง แต่ที่เกาหลี เค้าจะห่อใหญ่กว่าของเราอ่ะ บิ๊กแพคอะไรประมาณนั้น
만두 (มันดู) - เกี๊ยวเกาหลี มันจะห่อหัวกะหางมาติดกัน เป็นกลมๆ ม้วนๆหน่อย ไปต้ม
떡볶이 (ต๊อกโปกี) - ต๊อกเป็นแป้งชนิดนึงของเกาหลี เอามาผัดซอสแดง กินร้อนๆ (ว้ากก หิวว - ผู้เขียน)
소주 (โซจู) - เหล้าเกาหลี เห็นเค้าว่ากันว่า แรงมาก คอไม่แข็ง แค่กระดกเดียวก้ออาจคอพับได้ แต่เด็กไทยต่ำกว่าอายุ 18 อย่ากินนะจ๊ะ - -. ที่เกาหลีเค้ากินกันเพราะอากาศมันหนาวอ่ะนะ แล้วก็จะขายในขวดเขียวๆแบบนี้
떡 (ต๊อก) - ขนมต๊อก ทำจากแป้งต๊อก เหนียว หนึบๆ เป็นของหวานไว้ทานเล่น
ขอบคุณwanitcha.exteen.com/20070426/entry
วันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2553
วันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2553
อาหารญี่ป่นยอดฮิต
อาหารญี่ปุ่นเรียกได้ว่าเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เน้นเรื่องธรรมชาติและพยายามคงรสธรรมชาติของอาหารเอาไว้ให้ได้มากที่สุดอีกทั้งยังมีการจักวางอย่างประดิดประดอย สวยงามอย่างมีศิลปะ อาหารญี่ปุ่นจึงเรียกได้ว่าเป็นตัวบ่งบอกได้เป็นอย่างดีถึงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนญี่ปุ่น
ปีกไก่ทอด
เป็นไก่เลี้ยงที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเรื่องของธรรมชาติ และความเนื้อนุ่มของเนื้อก็คือไก่เลี้ยงของจังหวัดนาโงยะ ส่วนไก่ของญี่ปุ่นเรียกว่า โกเยโกชิ ซึ่งมีความหมายว่า เสียงดี เสียงเพราะ ไก่ญี่ปุ่นที่ได้รับการส่งเสริมให้เลี้ยงโดยเทศบาลท้องถิ่นคือไก่ฟ้าประเภทหางยาว ออกไข่ในระหว่างเดือนเมษายนถึงกรกฎาคม ที่ญี่ปุ่นอาหารที่ทำจากไก่นั้น ถือว่าเป็นอาหารโปรตีนที่สำคัญมากของประเทศ
ข้าวหน้าปลาไหล
อุนาจู ( Unaju) เป็นปลาไหลย่างแบบคาบายากิ ( Kabayaki) คือทาซอสแล้วย่างบนเตา วางบนข้าวในกล่องลงรักรูปสี่เหลี่ยมส่วนข้าวหน้าปลาไหลหรืออุนางิ ( Unagi) เป็นอาหารยอดนิยมในช่วงฤดูร้อน อุดมไปด้วยวิตามินอีและเอ มีธปรตีนสูงแต่แคลอรี่ต่ำ โดยปกติแล้ว อุนางิจะเสิร์ฟมาพร้อมกัยซอสหวานทาเระ (Tare) ปลาไหลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในญี่ปุ่น ต้องจากจังหวัดชิซุโอะกะ เพราะมีเนื้อหนากระดูกอ่อนนุ่ม รสชาติ อร่อย สำหรับญี่ปุ่นแล้วธรรมเนียมการกินปลาไหลมีมานานกว่าร้อยปี คนญี่ปุ่นจะใช้มีดกรีดที่ด้านหลังของปลา เพื่อลอกกระดูกออก แล้วตัดปลายเป็นท่อนพอเหมาะ นำมาย่างด้วยการรมควันบนเตาหรืย่างแบบไม่รมควันก็ได้
ปลาซาบะ
เป็นปลาซาบะจากทะเลนำมาตากแห้ง โดยปกติแล้วปลาซาบะจะมีกลิ่นแรงและเก็บไว้ให้สดไม่ได้นาน ก่อนที่จะนำมารับประทานดิบคนญี่ปุ่นนิยมนำเนื้อปลาแช่กับเกลือและน้ำส้มและนำมาเป็น ชิเมะ – ซาบะ
(Shime-saba) หรือจะนำมาทำเป็นซุปเซนบะ – จิรุ ( Senba-jiru)คือการนำปลาซาบะมาต้มกับหัวไชเท้าหรือน้ำขิงก็ได้
ปลาจากทะเลญี่ปุ่น
ปลาไท (Tai) ปลาซาโยริ (sayori) และกุ้งนำมาปรุงให้รสชาติเปรี้ยวด้วยข้าว เกลือและสาหร่ายทะเล โดยปกติแล้วปลาไทหรือที่เรียกว่าปลาทรายแดงนั้นจะเป็นปลาที่มีเนื้อนุ่ม รสชาติหวาน เมื่อนำมาหมักกับเกลือแล้วย่างจะเป็นอาหารที่ใช้สำหรับรับประทานในงานแต่งหรือพิธีฉลองต่างๆหรือนำมารับประทานแบบดิบเป็นซาซิมิก็ได้
ปลาทูน่า
ปลาทูน่าแท่งกับเนื้อส่วนท้องของปลาทูน่าที่มีมันเยอะ มีสีชมพูอ่อน รสชชาติมันอร่อยหรือที่เรียกกันในภาษาญี่ปุ่นว่าโทโระ (Toro) มักนำมาทำเป็นซุชิและซาซิมิซึ่งเป็นอาหารทะเลดิบที่คนญี่ปุ่นนิยมทานกันมากแต่เนื่องจากโทโระมีราคาแพงซุชิหน้าโทโระเพียงแค่ 2 ชิ้น อาจราคาสูงถึงหนึ่งพันบาทซึ่งถือว่าแพงมาก ทำให้บางครั้งคนญี่ปุ่นจึงนำปลาทุน่าแท่งมาย่างให้กรอบเฉพาะด้านหน้าส่วนเนื้อด้านในให้ยังคงดิบอยู่ สามารถนำมาทานกับข้าวหรือกินเป็นกับแกล้มเหล้า เพิ่มให้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้น
Chikuwa ( ลูกชิ้นปลา)
เป็นลูกชิ้นที่ทำมาจากปลาชนิดหนึ่ง โดยนำเอาเครื่องปรุงลูกชิ้นนั้นไปพันรอบไม้ไผ่หรือเหล็กแล้วนำไปย่างหรือนึ่งให้สุกเมื่อสุกแล้วจึงมีรูตรงกลางเส้นส่วนมากแล้วนิยมมาใส่ในโอเด้งหรือนำมาหั่นแล้วสามารถทานได้เลยจะใส่ไส้ด้านในเป็นแตงกวาหรือชีสเพื่อเพิ่มรสชาติให้อร่อยมากยิ่งขึ้น
เต้าหู้
เต้าหู้หรือที่เรียกกันในภาษาญี่ปุ่นว่า Tofu มี2ชนิดคือ คินุโงฉิ (Kinugoshi) หรือเต้าหู้อ่อนและโมแมง (Momen) เต้าหู้แข็ง เพราะมีส่วนประกอบของน้ำน้อย เนื้อหยาบกว่าเต้าหู้หยาบ เต้าหู้ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดเป็นเต้าหู้จากจังหวัดเกียวโต เพราะเป็นของฝากขึ้นชื่อประจำจังหวัดซึ่งทำมาจากถั่วเหลืองที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ คนญี่ปุ่นจึงมักนิยมกินเต้าหู้กับโชยุ หรือนำมาทำเป็นซุปเต้าหู้เสิร์ฟพร้อมกับราเม็ง อาหารและเครื่องเคียง
ผักดอง
ผักดองแบบญี่ปุ่น Tsukemono ได้กลายมาเป็นอาหารยอดนิยมอย่างมากของญี่ปุ่นในช่วงสมัยเอโดะ เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มรสชาติและสีสันของอาหารแล้ว ผักดองยังเป็นเครื่องเคียงที่ช่วยเสริมหน้าตาและรสชาติของอาหารให้น่ารับประทานมากยิ่งขึ้นและที่ญี่ปุ่นนั้นอาหารทุกมื้อต้องเสิร์ฟพร้อมผักดองเพราะรสชาติของความมันและความชุ่มฉ่ำที่มีอยู่ในผักดองนั้นจะช่วยล้างปากเพื่อให้เตรียมรับรสชาติใหม่ของอาหารต่อไป
บ๊วยดอง
ที่ญี่ปุ่นนั้นนิยมปลูกบ๊วยไว้ในสวนหรือทำเป็นบอนไซ ดอกบ๊วยมีสีขาว ชมพูและสีแดง จะบานในช่วงฤดูใบไม้ผลิ มีกลิ่นหอมส่วนลูกบ๊วย (Ume)นั้นจะสุกประมาณเดือนมิถุนายน คนญี่ปุ่นนิยมนำผลบ๊วยที่สุกแล้วนำมาทำเป็นบ๊วยดองโดยการนำมาดองกับเกลือไม่เพียงเท่านั้น ผลบ๊วยยังสามารถนำมาทำเป็นเหล้าบ๊วยและน้ำส้มบ๊วยได้อีกด้วย
บะหมี่ญี่ปุ่น (โซบะ)
คนญี่ปุ่นนิยม ทานโซบะกันมากที่สุดคือกินได้ตลอดปี ทุกฤดูกาล โซบะทำมาจากบักวีต มีเส้นสีน้ำตาลบาง สามารถปรุงได้ทั้งร้อนทั้งเย็นทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฤดูกาล ถ้ากินแบบเย็นเรียกว่า(Hiyamugi)หรือบะหมี่เย็น โดยใช้ส่วนผสมอย่างเดียวกับอุด้งแต่เส้นทีร่ใช้ปรุงจะบางกว่า โซบะแบบเย็นจะถูกเสิร์ฟพร้อมวาซาบิ หอมหัวใหญ่ผ่านผสมลงไปในน้ำจิ้มที่ทำจากมิริน(Mirin)หรือสาเกหวานเสิร์ฟบนเซรุหรือถาดไม้ไผ่ที่ญี่ปุ่นจะมีธรรมเนียมการกินเส้นโซบะในช่วงคืนส่งท้ายปีเก่า 31ธันวาคม ซึ่งมีความหมายให้ชีวิตที่ยืนยาวดังเช่นโซบะ
ซูชิหรือข้าวปั้นมีหน้า
นั้นเป็นอาหารญี่ปุ่นที่ข้าวมีส่วนผสมของน้ำส้มสายชูและทานคู่กับปลา เนื้อหรือของคาวชนิดต่างๆและในประเทศญี่ปุ่นนั้นซูชิมักมีความหมายถึงอาหารที่มีส่วนผสมของ ซูชิเมะชิหรือข้าวที่มีส่วนผสมของน้ำส้มสายชูและมีหน้าแบบต่างๆ ที่ได้รับความนิยมได้แก่ อาหารทะเล ปลา ผัก ไข่และเห็ดซึ่งเนื้อที่นำมาทำนั้นอาจจะเป็นเนื้อดิบหรือเนื้อที่ผ่านกรรมวิธีการทำแแล้วสำรับประเทศอื่น
ซูชิหมายถึง การรวมกันระหว่างปลากับข้าว ซูชิมีวิวัฒนาการมาเมื่อหลายร้อยปีก่อนซึ่งเกิดมาจากความต้องการถนอมอาหารของคนญี่ปุ่น
ราเม็ง
ราเม็งเป็นบะหมี่น้ำของญี่ปุ่นซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน ราเม็งมักจะทานคู่กับเนื้อหมู สาหร่าย คะมะโบโกะ ต้นหอม และบางครั้งอาจมีข้าวโพด ราเม็งนั้นมีการปรุงที่แตกต่างกันไปตามแต่ละจังหวัดในญี่ปุ่น เช้นในคิวชูต้นกำเนิดของทงโคะสึราเม็ง (ราเม็งซุปกระดูกหมู) ในฮอกไกโดต้นกำเนิดของมิโซะราเม็ง(ราเม็งซุปเต้าเจี้ยว)
ขนมหวานของญี่ปุ่น
รวมเรียกขนมหวานของญี่ปุ่นว่า "วากาชิ" (Wagashi)ซึ่งมีมานานตั้งแต่สมัยนะระหรือประมาณ 1,300 ปีมาแล้ว แต่เฟื่องฟูสุดๆในช่วงเอโดะ (ปี ค.ศ. 1603-1867) โดยเฉพาะในเมืองเกียวโตและโตเกียว แต่ละร้านแข่งกันขายแข่งกันคิดขนมใหม่ๆจนกลายเป็นต้นตำรับของขนมญี่ปุ่นถึงจะได้ชื่อว่าเป็นขนมหวานประจำชาติ แต่ชาวญี่ปุ่นก็ไม่ได้กินวากาชิกันบ่อยๆ ซึ่งวากาชินี้จะกินเป็นของว่างและในโอกาสพิเศษเมื่อมีพิธีการต่างๆเช่น พิธีแต่งงาน หรือพิธีชงชาและแรงบันดาลใจของพ่อครัวแม่ครัวในการสร้างสรรค์ขนมวากาชินั้นก็ได้มาจาธรรมชาติ ต้นไม้ ดอกไม้ การเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล เช่น ฤดูใบไม้ร่วงจะทำขนมคิคุโกะโระโมะรูปดอกเบญจมาศ ส่วนฤดูหนาวก็ทำยูคิโมจิ หรือโมจิหิมะ เป็นต้นมาถึงการแบ่งประเภทของวากาชิกันบ้าง ซึ่งก็ไม่ได้แบ่งเป็นหมวดหมู่ชัดเจนเพราะขนมแต่ละชิ้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
โจ นะมะกะชิ (Jyo-Namagashi)
ขนมญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะจัดอยู่ในกลุ่มนี้ เป็นแป้งห่อไส้ถั่วแดงบดหรือ "อัน" (An) แป้งที่นำมาห่อหุ้มมีทั้งแป้งท้าวยายม่อม แป้งข้าวเหนียว แป้งข้าวเจ้า ปั้นเป็นรูปทรงต่างๆทั้งดอกไม้ ผลไม้ พระจันทร์ ซึ่งจะออกแบบให้เข้ากับฤดูกาล ทั้งชื่อขนม ส่วนผสม รูปทรงและสีสัน เป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้ผู้คนได้รู้ว่าฤดูกาลใหม่กำลังจะมาเยือน เช่น ซากุระโมจิ (โมจิสีชมพูห่อด้วยใบซากุระ) ซึ่งจะออกในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
ฮิงะชิ (Higashi)
เป็นขนมแบบแห้ง เก็บไว้ได้นาน ทำจากแป้งข้าวเหนียว น้ำตาล และวาซัมบงโตะ (Wasambon-to) น้ำตาลผงที่ทำด้วยกรรมวิธีแบบดั้งเดิมผสมกันแล้วนำมาอัดในพิมพ์ ได้ขนมที่ผิวเป็นแป้งแห้งๆคล้ายขนมโก๋ เสิร์ฟในพิธีชงชา
เซมเบ้ (Sembei)
เป็นข้าวเกรียบสีน้ำตาล เคี้ยวกรุบกรอบ มีหลากรูปร่างหลายขนาด (ใหญ่ที่สุดที่เคยเห็นก็ขนาดเท่าแผ่นเสียง) แต่แบบยอดฮิตคือทรงกลมแบนเหมือนที่รองแก้ว ทำจากข้าวเหนียวนำมาปิ้ง แต่งรสด้วยโชยุและเกลือเป็นหลัก ราดหน้าด้วยงา สาหร่าย พริก เพิ่มกลิ่น เพิ่มรสให้อร่อยกันได้หลายแบบ นอกจากนี้ยังมีเซมเบ้แบบหวานหรือซาราเมะ เซมเบ้ (Sarame Sembei) ทำจากแป้งสาลี น้ำตาลและกลูโคส
โนะนะกะ (Monaka)
คือเวเฟอร์ไส้ถั่วแดง มีทั้งถั่วบดและแบบเต็มเม็ด ประกอบด้วยแผ่นแป้งบางกรอบทำจากข้าวเหนียว ทำเป็นรูปวงกลม สี่เหลี่ยมดอกซากุระ และอีกสารพัดรูปแล้วแต่จะสร้างสรรค์ โดดเด่นที่ความกรอบกับความนิ่มผสานกับรสหวานๆมันๆ นอกจากไส้ถั่วแดงแล้วยังมีไส้ชาเขียวและถั่วอื่นๆด้วย
โยคัง (Yokan)
ใช้ส่วนผสมหลักคือวุ้นที่ได้จากสาหร่าย เรียกว่า คันเตน (Kanten) แบ่งได้ 2 แบบใหญ่ๆ คือ มิซุ โยคัง เป็นวุ้นใสๆแช่เย็น กินในฤดร้อนผสมผลไม้ลงไป ได้รสหวานเย็น หอมชื่นใจ อีกชนิดคือ มุชิ โยคัง เป็นวุ้นขุ่นๆ เนื้อนิ่มเหนียว ตัดเป็นชิ้นเหลี่ยมพอคำ ทำจากถั่ว เกาลัด หรือมันที่บดละเอียด แป้งสาลี น้ำตาล และคันเตน
มันจู (Manjyu)
เป็นขนมกลมๆแป้งด้านนอกที่ห่อทำจากแป้งมันเทศ (บางครั้งใช้แป้งโซบะ) ไส้เป็นถั่วบดและมีมันเทศหรือเกาลัดอยู่ตรงกลางไส้อีกที นำไปนึ่ง อบหรือย่าง จึงได้ขนมอร่อยโดยเฉพาะขนมโมมิจิมันจูที่เมืองมิยาจิมาโดดเด่นที่ห่อด้วยใบเมเปิล มีหลายไ ส้ทั้งถั่วแดงบด คัสตาร์ด ช็อคโกแลต ถือเป็นขนมชื่อดังที่ไม่ว่าใครไปเยือนก็ต้องลองชิม
ดังโกะ(Dango)
ที่ญี่ปุ่นนั้นมีเป็นสิบสูตร แต่ที่หน้าตาเหมือนลูกชิ้นเสียบไม้ที่บ้านเราเห็นกันเรียกว่า คุชิ ดังโกะ ทำจากแป้งโมจิ บางครั้งก็ผสมเต้าหู้ลงไปในแป้งด้วย ปั้นเป็นลูกกลม เสียบไม้แล้วนำไปปิ้ง ได้ลูกชิ้นแป้งนุ่มๆเหนียวๆราดซอสโชยุ ซอสเต้าเจี้ยว หรือเกาลัดบด หรือบางครั้งจะโรยด้วยถั่วบดกับน้ำตาลทรายแดง
ไดฟุกุ (Daifuku)
ที่เมืองไทยมักเรียกว่าโมจิไส้ถั่วแดง แต่จริงๆเขาเรียกขนมประเภทนี้ว่าไดฟุกุ แป้งด้านนอกทำจากแป้งข้าวเหนียวนึ่งที่นำมาตีจนเหนียว (โมจิ) มีสีขาว เขียวและชมพู ส่วนไส้ก็เป็นถั่วแดง ที่พิเศษก็จะใส่ผลไม้ลงไป เช่น อิจิโกะ ไดฟุกุ (Ichigo Daifuku) เป็นโมจิไส้ลูกสตรอร์เบอร์รี่หอมหวาน อร่อยจับใจนอกจากนั้นยังมีไส้เมลอนบดและไอศกรีมรสต่างๆด้วย
ไทยะกิ (Tai Yaki)
ขนมหน้าตาน่ารักรูปปลาตัวเท่าผ่ามือ เป็นขนมที่จำลองรูปแบบของปลากะพงแดง เรียกอีกชื่อว่า "แพนเค้กญี่ปุ่น" เนื้อแป้งแน่นและเหนียวนุ่ม นอกจากไส้ถั่วแดงมาตรฐานแล้วก็มีไส้เกาลัด ไส้มันหวานและอีกสารพัดไส้ รูปทรงก็มีสารพัดรูปเช่นกัน ทั้งรูปตุ๊กตา รูปกลมๆ แบนๆ ที่เรียกว่า อิมะกะวะ ยะกิ และที่รู้จักกันดีที่สุดคือ โดรายากิ ขนมสุดโปรดของโดราเอมอนที่เป็นรูปฆ้อง
ปีกไก่ทอด
เป็นไก่เลี้ยงที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเรื่องของธรรมชาติ และความเนื้อนุ่มของเนื้อก็คือไก่เลี้ยงของจังหวัดนาโงยะ ส่วนไก่ของญี่ปุ่นเรียกว่า โกเยโกชิ ซึ่งมีความหมายว่า เสียงดี เสียงเพราะ ไก่ญี่ปุ่นที่ได้รับการส่งเสริมให้เลี้ยงโดยเทศบาลท้องถิ่นคือไก่ฟ้าประเภทหางยาว ออกไข่ในระหว่างเดือนเมษายนถึงกรกฎาคม ที่ญี่ปุ่นอาหารที่ทำจากไก่นั้น ถือว่าเป็นอาหารโปรตีนที่สำคัญมากของประเทศ
ข้าวหน้าปลาไหล
อุนาจู ( Unaju) เป็นปลาไหลย่างแบบคาบายากิ ( Kabayaki) คือทาซอสแล้วย่างบนเตา วางบนข้าวในกล่องลงรักรูปสี่เหลี่ยมส่วนข้าวหน้าปลาไหลหรืออุนางิ ( Unagi) เป็นอาหารยอดนิยมในช่วงฤดูร้อน อุดมไปด้วยวิตามินอีและเอ มีธปรตีนสูงแต่แคลอรี่ต่ำ โดยปกติแล้ว อุนางิจะเสิร์ฟมาพร้อมกัยซอสหวานทาเระ (Tare) ปลาไหลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในญี่ปุ่น ต้องจากจังหวัดชิซุโอะกะ เพราะมีเนื้อหนากระดูกอ่อนนุ่ม รสชาติ อร่อย สำหรับญี่ปุ่นแล้วธรรมเนียมการกินปลาไหลมีมานานกว่าร้อยปี คนญี่ปุ่นจะใช้มีดกรีดที่ด้านหลังของปลา เพื่อลอกกระดูกออก แล้วตัดปลายเป็นท่อนพอเหมาะ นำมาย่างด้วยการรมควันบนเตาหรืย่างแบบไม่รมควันก็ได้
ปลาซาบะ
เป็นปลาซาบะจากทะเลนำมาตากแห้ง โดยปกติแล้วปลาซาบะจะมีกลิ่นแรงและเก็บไว้ให้สดไม่ได้นาน ก่อนที่จะนำมารับประทานดิบคนญี่ปุ่นนิยมนำเนื้อปลาแช่กับเกลือและน้ำส้มและนำมาเป็น ชิเมะ – ซาบะ
(Shime-saba) หรือจะนำมาทำเป็นซุปเซนบะ – จิรุ ( Senba-jiru)คือการนำปลาซาบะมาต้มกับหัวไชเท้าหรือน้ำขิงก็ได้
ปลาจากทะเลญี่ปุ่น
ปลาไท (Tai) ปลาซาโยริ (sayori) และกุ้งนำมาปรุงให้รสชาติเปรี้ยวด้วยข้าว เกลือและสาหร่ายทะเล โดยปกติแล้วปลาไทหรือที่เรียกว่าปลาทรายแดงนั้นจะเป็นปลาที่มีเนื้อนุ่ม รสชาติหวาน เมื่อนำมาหมักกับเกลือแล้วย่างจะเป็นอาหารที่ใช้สำหรับรับประทานในงานแต่งหรือพิธีฉลองต่างๆหรือนำมารับประทานแบบดิบเป็นซาซิมิก็ได้
ปลาทูน่า
ปลาทูน่าแท่งกับเนื้อส่วนท้องของปลาทูน่าที่มีมันเยอะ มีสีชมพูอ่อน รสชชาติมันอร่อยหรือที่เรียกกันในภาษาญี่ปุ่นว่าโทโระ (Toro) มักนำมาทำเป็นซุชิและซาซิมิซึ่งเป็นอาหารทะเลดิบที่คนญี่ปุ่นนิยมทานกันมากแต่เนื่องจากโทโระมีราคาแพงซุชิหน้าโทโระเพียงแค่ 2 ชิ้น อาจราคาสูงถึงหนึ่งพันบาทซึ่งถือว่าแพงมาก ทำให้บางครั้งคนญี่ปุ่นจึงนำปลาทุน่าแท่งมาย่างให้กรอบเฉพาะด้านหน้าส่วนเนื้อด้านในให้ยังคงดิบอยู่ สามารถนำมาทานกับข้าวหรือกินเป็นกับแกล้มเหล้า เพิ่มให้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้น
Chikuwa ( ลูกชิ้นปลา)
เป็นลูกชิ้นที่ทำมาจากปลาชนิดหนึ่ง โดยนำเอาเครื่องปรุงลูกชิ้นนั้นไปพันรอบไม้ไผ่หรือเหล็กแล้วนำไปย่างหรือนึ่งให้สุกเมื่อสุกแล้วจึงมีรูตรงกลางเส้นส่วนมากแล้วนิยมมาใส่ในโอเด้งหรือนำมาหั่นแล้วสามารถทานได้เลยจะใส่ไส้ด้านในเป็นแตงกวาหรือชีสเพื่อเพิ่มรสชาติให้อร่อยมากยิ่งขึ้น
เต้าหู้
เต้าหู้หรือที่เรียกกันในภาษาญี่ปุ่นว่า Tofu มี2ชนิดคือ คินุโงฉิ (Kinugoshi) หรือเต้าหู้อ่อนและโมแมง (Momen) เต้าหู้แข็ง เพราะมีส่วนประกอบของน้ำน้อย เนื้อหยาบกว่าเต้าหู้หยาบ เต้าหู้ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดเป็นเต้าหู้จากจังหวัดเกียวโต เพราะเป็นของฝากขึ้นชื่อประจำจังหวัดซึ่งทำมาจากถั่วเหลืองที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ คนญี่ปุ่นจึงมักนิยมกินเต้าหู้กับโชยุ หรือนำมาทำเป็นซุปเต้าหู้เสิร์ฟพร้อมกับราเม็ง อาหารและเครื่องเคียง
ผักดอง
ผักดองแบบญี่ปุ่น Tsukemono ได้กลายมาเป็นอาหารยอดนิยมอย่างมากของญี่ปุ่นในช่วงสมัยเอโดะ เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มรสชาติและสีสันของอาหารแล้ว ผักดองยังเป็นเครื่องเคียงที่ช่วยเสริมหน้าตาและรสชาติของอาหารให้น่ารับประทานมากยิ่งขึ้นและที่ญี่ปุ่นนั้นอาหารทุกมื้อต้องเสิร์ฟพร้อมผักดองเพราะรสชาติของความมันและความชุ่มฉ่ำที่มีอยู่ในผักดองนั้นจะช่วยล้างปากเพื่อให้เตรียมรับรสชาติใหม่ของอาหารต่อไป
บ๊วยดอง
ที่ญี่ปุ่นนั้นนิยมปลูกบ๊วยไว้ในสวนหรือทำเป็นบอนไซ ดอกบ๊วยมีสีขาว ชมพูและสีแดง จะบานในช่วงฤดูใบไม้ผลิ มีกลิ่นหอมส่วนลูกบ๊วย (Ume)นั้นจะสุกประมาณเดือนมิถุนายน คนญี่ปุ่นนิยมนำผลบ๊วยที่สุกแล้วนำมาทำเป็นบ๊วยดองโดยการนำมาดองกับเกลือไม่เพียงเท่านั้น ผลบ๊วยยังสามารถนำมาทำเป็นเหล้าบ๊วยและน้ำส้มบ๊วยได้อีกด้วย
บะหมี่ญี่ปุ่น (โซบะ)
คนญี่ปุ่นนิยม ทานโซบะกันมากที่สุดคือกินได้ตลอดปี ทุกฤดูกาล โซบะทำมาจากบักวีต มีเส้นสีน้ำตาลบาง สามารถปรุงได้ทั้งร้อนทั้งเย็นทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฤดูกาล ถ้ากินแบบเย็นเรียกว่า(Hiyamugi)หรือบะหมี่เย็น โดยใช้ส่วนผสมอย่างเดียวกับอุด้งแต่เส้นทีร่ใช้ปรุงจะบางกว่า โซบะแบบเย็นจะถูกเสิร์ฟพร้อมวาซาบิ หอมหัวใหญ่ผ่านผสมลงไปในน้ำจิ้มที่ทำจากมิริน(Mirin)หรือสาเกหวานเสิร์ฟบนเซรุหรือถาดไม้ไผ่ที่ญี่ปุ่นจะมีธรรมเนียมการกินเส้นโซบะในช่วงคืนส่งท้ายปีเก่า 31ธันวาคม ซึ่งมีความหมายให้ชีวิตที่ยืนยาวดังเช่นโซบะ
ซูชิหรือข้าวปั้นมีหน้า
นั้นเป็นอาหารญี่ปุ่นที่ข้าวมีส่วนผสมของน้ำส้มสายชูและทานคู่กับปลา เนื้อหรือของคาวชนิดต่างๆและในประเทศญี่ปุ่นนั้นซูชิมักมีความหมายถึงอาหารที่มีส่วนผสมของ ซูชิเมะชิหรือข้าวที่มีส่วนผสมของน้ำส้มสายชูและมีหน้าแบบต่างๆ ที่ได้รับความนิยมได้แก่ อาหารทะเล ปลา ผัก ไข่และเห็ดซึ่งเนื้อที่นำมาทำนั้นอาจจะเป็นเนื้อดิบหรือเนื้อที่ผ่านกรรมวิธีการทำแแล้วสำรับประเทศอื่น
ซูชิหมายถึง การรวมกันระหว่างปลากับข้าว ซูชิมีวิวัฒนาการมาเมื่อหลายร้อยปีก่อนซึ่งเกิดมาจากความต้องการถนอมอาหารของคนญี่ปุ่น
ราเม็ง
ราเม็งเป็นบะหมี่น้ำของญี่ปุ่นซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน ราเม็งมักจะทานคู่กับเนื้อหมู สาหร่าย คะมะโบโกะ ต้นหอม และบางครั้งอาจมีข้าวโพด ราเม็งนั้นมีการปรุงที่แตกต่างกันไปตามแต่ละจังหวัดในญี่ปุ่น เช้นในคิวชูต้นกำเนิดของทงโคะสึราเม็ง (ราเม็งซุปกระดูกหมู) ในฮอกไกโดต้นกำเนิดของมิโซะราเม็ง(ราเม็งซุปเต้าเจี้ยว)
ขนมหวานของญี่ปุ่น
รวมเรียกขนมหวานของญี่ปุ่นว่า "วากาชิ" (Wagashi)ซึ่งมีมานานตั้งแต่สมัยนะระหรือประมาณ 1,300 ปีมาแล้ว แต่เฟื่องฟูสุดๆในช่วงเอโดะ (ปี ค.ศ. 1603-1867) โดยเฉพาะในเมืองเกียวโตและโตเกียว แต่ละร้านแข่งกันขายแข่งกันคิดขนมใหม่ๆจนกลายเป็นต้นตำรับของขนมญี่ปุ่นถึงจะได้ชื่อว่าเป็นขนมหวานประจำชาติ แต่ชาวญี่ปุ่นก็ไม่ได้กินวากาชิกันบ่อยๆ ซึ่งวากาชินี้จะกินเป็นของว่างและในโอกาสพิเศษเมื่อมีพิธีการต่างๆเช่น พิธีแต่งงาน หรือพิธีชงชาและแรงบันดาลใจของพ่อครัวแม่ครัวในการสร้างสรรค์ขนมวากาชินั้นก็ได้มาจาธรรมชาติ ต้นไม้ ดอกไม้ การเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล เช่น ฤดูใบไม้ร่วงจะทำขนมคิคุโกะโระโมะรูปดอกเบญจมาศ ส่วนฤดูหนาวก็ทำยูคิโมจิ หรือโมจิหิมะ เป็นต้นมาถึงการแบ่งประเภทของวากาชิกันบ้าง ซึ่งก็ไม่ได้แบ่งเป็นหมวดหมู่ชัดเจนเพราะขนมแต่ละชิ้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
โจ นะมะกะชิ (Jyo-Namagashi)
ขนมญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะจัดอยู่ในกลุ่มนี้ เป็นแป้งห่อไส้ถั่วแดงบดหรือ "อัน" (An) แป้งที่นำมาห่อหุ้มมีทั้งแป้งท้าวยายม่อม แป้งข้าวเหนียว แป้งข้าวเจ้า ปั้นเป็นรูปทรงต่างๆทั้งดอกไม้ ผลไม้ พระจันทร์ ซึ่งจะออกแบบให้เข้ากับฤดูกาล ทั้งชื่อขนม ส่วนผสม รูปทรงและสีสัน เป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้ผู้คนได้รู้ว่าฤดูกาลใหม่กำลังจะมาเยือน เช่น ซากุระโมจิ (โมจิสีชมพูห่อด้วยใบซากุระ) ซึ่งจะออกในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
ฮิงะชิ (Higashi)
เป็นขนมแบบแห้ง เก็บไว้ได้นาน ทำจากแป้งข้าวเหนียว น้ำตาล และวาซัมบงโตะ (Wasambon-to) น้ำตาลผงที่ทำด้วยกรรมวิธีแบบดั้งเดิมผสมกันแล้วนำมาอัดในพิมพ์ ได้ขนมที่ผิวเป็นแป้งแห้งๆคล้ายขนมโก๋ เสิร์ฟในพิธีชงชา
เซมเบ้ (Sembei)
เป็นข้าวเกรียบสีน้ำตาล เคี้ยวกรุบกรอบ มีหลากรูปร่างหลายขนาด (ใหญ่ที่สุดที่เคยเห็นก็ขนาดเท่าแผ่นเสียง) แต่แบบยอดฮิตคือทรงกลมแบนเหมือนที่รองแก้ว ทำจากข้าวเหนียวนำมาปิ้ง แต่งรสด้วยโชยุและเกลือเป็นหลัก ราดหน้าด้วยงา สาหร่าย พริก เพิ่มกลิ่น เพิ่มรสให้อร่อยกันได้หลายแบบ นอกจากนี้ยังมีเซมเบ้แบบหวานหรือซาราเมะ เซมเบ้ (Sarame Sembei) ทำจากแป้งสาลี น้ำตาลและกลูโคส
โนะนะกะ (Monaka)
คือเวเฟอร์ไส้ถั่วแดง มีทั้งถั่วบดและแบบเต็มเม็ด ประกอบด้วยแผ่นแป้งบางกรอบทำจากข้าวเหนียว ทำเป็นรูปวงกลม สี่เหลี่ยมดอกซากุระ และอีกสารพัดรูปแล้วแต่จะสร้างสรรค์ โดดเด่นที่ความกรอบกับความนิ่มผสานกับรสหวานๆมันๆ นอกจากไส้ถั่วแดงแล้วยังมีไส้ชาเขียวและถั่วอื่นๆด้วย
โยคัง (Yokan)
ใช้ส่วนผสมหลักคือวุ้นที่ได้จากสาหร่าย เรียกว่า คันเตน (Kanten) แบ่งได้ 2 แบบใหญ่ๆ คือ มิซุ โยคัง เป็นวุ้นใสๆแช่เย็น กินในฤดร้อนผสมผลไม้ลงไป ได้รสหวานเย็น หอมชื่นใจ อีกชนิดคือ มุชิ โยคัง เป็นวุ้นขุ่นๆ เนื้อนิ่มเหนียว ตัดเป็นชิ้นเหลี่ยมพอคำ ทำจากถั่ว เกาลัด หรือมันที่บดละเอียด แป้งสาลี น้ำตาล และคันเตน
มันจู (Manjyu)
เป็นขนมกลมๆแป้งด้านนอกที่ห่อทำจากแป้งมันเทศ (บางครั้งใช้แป้งโซบะ) ไส้เป็นถั่วบดและมีมันเทศหรือเกาลัดอยู่ตรงกลางไส้อีกที นำไปนึ่ง อบหรือย่าง จึงได้ขนมอร่อยโดยเฉพาะขนมโมมิจิมันจูที่เมืองมิยาจิมาโดดเด่นที่ห่อด้วยใบเมเปิล มีหลายไ ส้ทั้งถั่วแดงบด คัสตาร์ด ช็อคโกแลต ถือเป็นขนมชื่อดังที่ไม่ว่าใครไปเยือนก็ต้องลองชิม
ดังโกะ(Dango)
ที่ญี่ปุ่นนั้นมีเป็นสิบสูตร แต่ที่หน้าตาเหมือนลูกชิ้นเสียบไม้ที่บ้านเราเห็นกันเรียกว่า คุชิ ดังโกะ ทำจากแป้งโมจิ บางครั้งก็ผสมเต้าหู้ลงไปในแป้งด้วย ปั้นเป็นลูกกลม เสียบไม้แล้วนำไปปิ้ง ได้ลูกชิ้นแป้งนุ่มๆเหนียวๆราดซอสโชยุ ซอสเต้าเจี้ยว หรือเกาลัดบด หรือบางครั้งจะโรยด้วยถั่วบดกับน้ำตาลทรายแดง
ไดฟุกุ (Daifuku)
ที่เมืองไทยมักเรียกว่าโมจิไส้ถั่วแดง แต่จริงๆเขาเรียกขนมประเภทนี้ว่าไดฟุกุ แป้งด้านนอกทำจากแป้งข้าวเหนียวนึ่งที่นำมาตีจนเหนียว (โมจิ) มีสีขาว เขียวและชมพู ส่วนไส้ก็เป็นถั่วแดง ที่พิเศษก็จะใส่ผลไม้ลงไป เช่น อิจิโกะ ไดฟุกุ (Ichigo Daifuku) เป็นโมจิไส้ลูกสตรอร์เบอร์รี่หอมหวาน อร่อยจับใจนอกจากนั้นยังมีไส้เมลอนบดและไอศกรีมรสต่างๆด้วย
ไทยะกิ (Tai Yaki)
ขนมหน้าตาน่ารักรูปปลาตัวเท่าผ่ามือ เป็นขนมที่จำลองรูปแบบของปลากะพงแดง เรียกอีกชื่อว่า "แพนเค้กญี่ปุ่น" เนื้อแป้งแน่นและเหนียวนุ่ม นอกจากไส้ถั่วแดงมาตรฐานแล้วก็มีไส้เกาลัด ไส้มันหวานและอีกสารพัดไส้ รูปทรงก็มีสารพัดรูปเช่นกัน ทั้งรูปตุ๊กตา รูปกลมๆ แบนๆ ที่เรียกว่า อิมะกะวะ ยะกิ และที่รู้จักกันดีที่สุดคือ โดรายากิ ขนมสุดโปรดของโดราเอมอนที่เป็นรูปฆ้อง
ขอบคุณwww.imageholiday.com/wizContent.asp?wizConID=307
อาหารไทยยอดฮิต
สิบอันดับอาหารไทยยอดนิยมในใจชาวต่างชาติกันค่ะ
อาหารไทย มีชื่อเสียงขจรขจายไกลไปทั่วโลก ด้วยสีสรรสวยงามตามธรรมชาติ รสชาติที่กลมกล่อมมีความหวาน เปรี้ยว เค็มได้ที่ และเผ็ดพอประมาณ
อาหารไทยมากมายหลายชนิด มีการผสมผสานเครื่องปรุง และเครื่องเทศต่างๆ ของเอเชียเข้าไว้ด้วยกัน ส่วนในการเพิ่มรสชาติของอาหาร มีการใช้ทั้งน้ำผลไม้ เช่น
น้ำมะนาว น้ำมะขาม และอื่นๆ เช่น น้ำปลา น้ำตาลปีบ กะปิ น้ำมันหอย ช่วยทำให้อาหารมีความกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น ส่วนผสมของกะทิ ที่ปรุงร่วมกับเครื่องแกงต่างๆ
ทำให้อาหารไทยมีความโดดเด่นในรสชาติ แตกต่างจากอาหารชาติอื่นๆ และนอกจากนั้น วัฒนธรรมการตกแต่งอาหาร ให้วิจิตรสวยงาม
ด้วยศิลปะการแกะสลักผักและผลไม้ แสดงออกถึงความประณีต ในการรับประทานอาหาร ของชนชาติไทย
Top 10 list of Thai Food :
Hot and sour soup with shrimp ต้มยำกุ้ง (tom yum goong)
Green curry with chicken แกงเขียวหวาน (gaeng kiaw waen gai)
Fried Noodles ผัดไทย (pad tai)
Pork fried in basil ผัดกระเพรา (pat ga-prao)
Red curry with roast duck แกงเผ็ดเป็ดย่าง (gaeng pet bet yaang)
Coconut soup with chicken ต้มข่าไก่ (tom kaa gai)
Thai style salad with beef ยำเนื้อย่าง (yam neua yaang)
Satay pork สะเต๊ะหมู (moo sa-teh)
Fried chicken with cashew ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ (gai pat met ma-muang him-ma-paan)
Panang curry พะแนง (pa-naeng)
สนใจก็ลองหาวิธีทำกันดูนะค่ะ
ขอบคุณhttp://www.yimwhan.com/board/show.php?user=tikkyjukky&topic=1&Cate=3
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)